3.6.11

ทำความสะอาด

0comments

เริ่มเรื่องผิวสวยด้วยสิ่งสำคัญ เราบอกทุกครั้งว่าการทำความสะอาด
เช็ดเครื่องสำอางค์ ล้างหน้าถูกวิธี และถูกผลิตภัณ สำคัญกว่าครีมบำรุงเป็นไหนๆ

นึกดูสิ เราแต่งหน้า อะไรก็ไม่รู้ปะปะ ทาทา อยู่บนหน้าเรา กลบซะไม่มีช่องว่าง
ออกไปข้างนอกเจอฝุ่น ผง สิ่งสกปรกนานาชนิด เหงื่อ มาเราก็เติ่มแป้ง รอยอะไรโผ่ลมา
เราก็คอลิลเลอร์โบ๊ะอีก กลับมาบ้าน นั่งเล่นคอมต่อ ถึง ตีหนึ่ง ผิวหน้าเราจะอุดตันขนาดไหน

ปัญหาผิวหม่องคล้ำ สิว ขึ้น หน้ามัน เป็นผื่น บล๊าบล๊า เราว่าไม่ต้องไปหาสาเหตุไหนเลย
ถามตัวเองสิ ว่าเราเช็ดสิ่งสกปรกออกหมดจดไม ล้างหน้าสะอาด ชำระถึงรูขุมขนรึเปล่า

เอาหล่ะ เรามาเริ่มกัน

ถิงเอง ตื่นเช้ามา แปรงฟัน อาบน้ำ ล้างหน้า เส็ด ก็ ลงโทนเนอร์ บำรุง กันแดด
ต่อไปก็ดูว่าออกไปไหนมั้ย ถ้าออก ก็จะแต่งหน้าเลย ถ้าไม่ก็จะพักหน้า
อาจจะมากค์หน้าทิ้งไว้ ไม่ก็ พอกน้ำผึ้งไว้ ฆ่าเวลาเล่นๆ

พอกลับมาบ้าน ถิงก็จะนั่งเล่นคอมแปปเดี่ยว ดูว่าวันนี้สระผมไม
ถ้าสระก็จะเช็ดเครื่องสำอางค์เลย

วิธีการเลือก คลีนเซอร์
อยากเช็ดออกเร็วทันใจให้ใช้ออย(ผสมน้ำมันเยอะ)
หากผิวแห้งใช้น้ำนมหรือครีม
ส่วนผิวคนเป็นสิวใช้เจลเพราะมีน้ำมันน้อย ล้าแล้วจะรู้สึกหมดจด นิ้งงงงส

วิธีการเช็ดมาสคาร่าให้หมดจดง่ายๆ
1หยดออกมาเท่าเหรียญ2บาท
2วางสำลีบนเปลือกตาทิ้งไว้สักครู่แล้วเช็ด
3ถ้าเช็ดแล้วยังไม่หมดให้เช็ดจากบนลงล่างอีกสักครั้ง
4ใช้ขอบสำลีที่พับสองทบเช็ดอายไลน์เนอร์ที่เหลือ

++++ การที่เราทำความสะอาดตาด้วยการถูไปถูมา
กว่าน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวจะกลับมาต้องใช้เวลาถึง 48ชม ที่เดียว สำคัญมาก

พอเช็ดหน้าเรียบร้อย ก็ไปอาบน้ำสระผม ><
ส่วนใครที่ไม่สระผม เราขอแนะนำให้ไปอาบทั้งๆแบบนั้นเลย
การที่เราทิ้งเครื่องสำอางค์ไว้ มันจะช่วยรักษาน้ำมัน
ในผิวเราไว้ ไม่ทำให้หน้าเราแห้ง......พออาบเสร็จ
เราก็ เช็ดหน้าก่อน
จากนั้นมาถึงขึ้นตอนการล้างหน้า
จำไว้ว่าอาบ เช็ด ทุกอย่างให้เสร็จ ค่อย ล้าหน้าสุดท้าย
ไม่ใช่ว่าสระไป ล้างหน้าไป น่ะจ่ะ

เอาหน้า โฟมล้างหน้า ก็มี แบบ มี ฟอง ไม่มีฟอง มีสคับ มั้ย แล้วก็แบ่ง
ของหน้ามันหน้าแห้ง

เลือกให้ถูก ให้เหมาะ อย่าดูที่โฆสนาและยี่ห้อ ฟองเยอะ ไม่ใช้ว่าจะสะอาดน่ะ
ส่วนสครับไม่แนะนำ เพราะเซลล์ผิวเราผลัดทุกๆ14วัน ไปขัดทุกวันหน้าก็แห้งพอดี
ขัดไปขัดมาถึงชั้นหนังแท้ หน้าก็ไม่มีภูมิคุ้มกัน แผ้ก็ง่าย

><
ทุกครั้ง ล้างหน้าเสร็จใช้ชิทชูซับให้แห้ง แล้ว ลุยstep ต่อไปเลย โอเค๊รร >>



30.5.11

โครงสร้างผิวเรา

0comments

เอาหล่ะวันนี้เราก็ว่างสักที
เราได้รับคำถามจะหลายๆคนเยอะมากๆเกี่ยวกับปัญหาผิว
ปัญหาแบบ เราเคยเป็น ไม่เคยเป็น รวมไปถึง .......อื้ม มีแบบนี้ด้วยอ้อ
จนเรานี้ตอบแทบไม่ถูก
จิงๆแล้ว ตัวเรานั่นแหละรู้ดีที่สุด คือสิว ฝ้า กระ บล๊าบล๊า อ
ยู่ดีดีมันไม่เกิดขึ้นเอง มันต้องมีอะไรสักอย่างอ่ะที่ผิดไป
ล้างหน้าไม่สะอาดเช็ดหน้าไม่เกลี้ยง ทาครีมไม่เหมาะกับผิว
อะไรหลายๆอย่างที่เราทำเป็นประจำ หรือบางอย่างที่ไม่ดีกับผิวแล้วเราดันทำ

ซึ่งตัวเรานี่แหละรู้ดีสุด แต่ถิงว่าเรามาอัพเดตข้อมูลกันหน่อย น่ะ
หยุดคิดถึงผลิตภัณยี่ห้อไหนดี หาหมอไหนดี ทำไงดี
แล้วมาตั้งสติอ่านข้อมูลนี้ ทำความเข้าใจมันสักพัก

เราจะรู้เลยว่าอะไร มันมายังไง แล้วทำยังไง จึงจะได้ยังไง ยังไงดี

เริ่มจากรู้จักโครงสร้างของผิวกันก่อน
ผิวเรามีหน้าที่ห่อหุ้มร่างกาย มันมีหน้าที่ปกป้องอวัยวะต่างๆที่อยู่ลึกลงไป
จากความร้อน แสง สิ่งแปลกปลอมและการติดเชื้อจากสภาพแวดล้อมต่างๆ
นอกจากนี้มันยัง ควบคุมอุณภูมิของร่างกายให้คงที่
กักเก็บน้าและน้ำมัน ผิวคนเราทั่วร่างกาย จะมีความต่างกันทั้ง สี
ความหยาบละเอียด ฯมาดูภาพตามนี้น่ะ

ซึ่งผิวหนังเราจริงๆมันไม่ได้มีอยู่ชั้นเดียวเพียวๆอย่าที่เราเข้าใจน่ะ
มันมีทั้งหมด 3ชั้นด้วยกัน จากบนสุดเป็นชั้นหนังกำพร้า ชั้นหนังแท้
แล้วสุดท้ายก็ เนื้อเยื้อใต้ผิวหรือชั้นฐานนั่นเอง

ชั้นฐานที่อยู่ล่างสุดทำการแบ่งเซลล์และเปลี่ยนรูปร่างดันขึ้นไปเรื่อยๆจนถึงบนสุด
ชั้นบนสุดของหนังกำพร้าเรียกว่า ชั้นขี้ไคล(เวลาเราขัดหน้าลอกหน้าก็เอาชั้นนี้แหละออกไป)
มันหนาประมาณ0.02มิล ทำหน้าที่ป้องกันการระเหยขอน้ำในร่างกาย
และป้องกันการแทรกซึมของสิ่งแปลกปลอมภายนอก

หนังแท้จะหนากว่าหนังกำพร้า10เท่ามีเส้นใยบางๆที่เรียกว่าคอลลาเจนและอิลาสติน
เป็นตัวรักษาความยืดหยุ่นของผิว (เวลาแก่แล้วชั้นนี้จะทำงานหน่อยลงทำให้หน้าเหี่ยว ไม่ตึง)

ส่วนชั้นเนื้อเยื้อใต้ผิวประกอบไปด้วย เนื้อเยื้อเกี่ยวพัน และน้ำมันใต้ผิวหนัง
จำนวนมาก ทำหน้าที่เหมือนปลอกหมอน ลดแรงกระแทกจากภายนอกสู่ภายใน
ชั้นนี้แหละที่เป็นบ่อเกิดของการมีสิว
เมื่อไหร่ที่สิ่งแปลกปลอมเข้ามาตามรูขุมขน ปะทะกับน้ำมันใต้ชั้นผิว สิวก็จะพุดขึ้นมา
ล้างหน้าไม่สะอากทำให้รูขุมขนอุดตัน น้ำมันไม่สามารถขับออกมาหล่อเลี้ยงผิวได้
สิวก็จะกลายเป็นสิวอักเสบ ทันทีทันใด

คราวๆเรื่องโครสร้างของผิว คงเข้าใจกันแล้วใช่มั้ยค่ะ ...

แน่นอนว่าผลิตภัณทุกอย่างไม่ว่าจะ 20 บาท หรือ 10000 /20000 ก็จะมีส่วนผสมอะไรสักอย่าง
เติมเต็มอาหารให้ผิว ที่ขาดหายไป อายุสูงหน่อยก็จะใช้อะไรที่มีคอลาเจน ส่วนเด็กๆ ที่ได้ยินบ่อยๆ
ก็ สะอาดบริสุท เติมน้ำให้ผิว ไม่ก็ มีสารผลัดเซลล์ผิว เพื่อให้ผิวกระจ่างใส่เป็นต้น
นี้ก็คือที่มา ที่ไป ของ ผิวเราน่ะ ต้องไปเราจะมาเจาะที่หล่ะปัญญหากัน ><

17.5.11

เกลือขัดผิว

0comments
เวลาไปซื้อสครับมา แพงๆ ก็ไม่ค่อยกล้าใ้กล้าขัด มาม่ะ ทำเองเหอะ ขัดให้ลอกยังไม่สกิดเงินในกระเป๋า
^^
ส่วนผสม

เกลือเม็ดละเอียด 1 1/2 ถ้วยตวง
น้ำผึ้งแท้ 1 ช้อนโต๊ะ
วิตามินอี 4 แคปซูล
เบบี้ออย 3/4 ถ้วย
น้ำมันหอมระเหย (เลือกกลิ่นตามชอบค่ะ)

เริ่มงาน ผสมทุกอย่างรวมกันยกเว้นวิตามิน e และ น้ำมันหอมระเหยจ่ะ
เส็จก็ค่อยเอา วิตามินeใส่
เพียวอีน่ะ ไม่ใช้วิตามินกินเล่นผสมน้ำตาล
จากนั่นก็ใส่กลิ่นที่ชอบ ฉีดน้ำหอมลงไป 2 3ปื้ดก็ได้
แล้วก็เอาใส่กระปุก จะได้ใช้ได้นานๆๆ

^_________^เชื่อเรา ทำเอา สถขกายสบายใจ สวย ให้พอ 55555

10 ขั้นตอนการแต่งหน้า

0comments
Skincare
ครีมบำรุงผิวคือสิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้ผิวของคุณดูมีสุขภาพดี การลดน้ำหนักสภาพอากาศ และความเครียดคือตัวการทำลายผิวที่คุณต้องประสบอยู่ทุกวันดังนั้นลองปรับนิสัยในการดูแลผิวของคุณเสียใหม่ให้ถูกต้อง

Moisturizer ช่วยให้ผิวดูสดชื่นสุขภาพดีและเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับผิวก่อนเข้าสู่ขั้นตอนของการแต่งหน้าและอย่าลืมเติมน้ำให้กับผิวที่แสนบอบบางบริเวณรอบดวงตาด้วย Eye Cream เนื้อบางเบาสักกระปุก เพื่อมั่นใจว่าคอนซีลเลอร์ที่ลงหลังจากนั้นจะเรียบเนียนและสม่ำเสมอ

ขั้นที่ 1
Corrector/Concealer
สำหรับจุดที่คล้ำเป็นพิเศษบริเวณใต้ดวงตา ลองเริ่มต้นด้วย Corrector
เพื่อกลบรอยหมองคล้ำนั้นเสียก่อน โทนสีชมพูจะช่วยอำพรางรอยเขียวซ้ำ
และโทนสีพีชจะช่วยอำพรางรอยคล้ำม่วง

ขั้นต่อมา ใช้ Creamy Concealer โทนสีเหลืองที่สว่างกว่าผิวจริงสักหนึ่งเฉดมาปรับเพิ่มความสว่างให้กับบริเวณใต้ดวงตา โดยใช้แปรง Concealer Brush ระบายเนื้อครีมให้ชิดแนวขนตาล่างและด้านในของหัวตาให้มากที่สุด จากนั้นจึงใช้นิ้วมือของคุณค่อยๆกดเบาๆจนกระทั่งคอนซีลเลอร์กลืนไปกับผิวใต้ดวงตา
ขั้นที่2
Foundation
เลือก Foundation (รองพื้น) โทนสีเหลืองสัก 2-3 เฉดสี นำมาขีดที่ด้านข้างแก้มภายใต้แสงธรรมชาติ สีที่ใช่ที่สุดคือสีที่กลืนหายไปกับผิวหน้าของคุณ

ใช้นิ้วมือหรือฟองน้ำกับจุดที่ต้องการปกปิดเป็นพิเศษ (เช่นรอบๆจมูกและข้าง
ริมฝีปากที่มีรอยจ้ำแดง) และใช้แปรง Foundation Brush เกลี่ยรองพื้นให้ทั่วใบหน้าส่วนที่เหลือเพื่อความเป็นธรรมชาติ
ขั้นที่3
Powder/bronzer
เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดคราบ ให้ไล้ Loose Powder (แป้งฝุ่น) เบาๆบนคอนซีลเลอร์ใต้ตา โดยใช้แปรง Eye Blender หรือ Mini Powder Puff ก็ได้
ถ้าคุณมีผิวหน้ามันบริเวณช่วง T-Zone ให้ลงแป้งให้ทั่วบริเวณใบหน้าที่เหลือโดยใช้ Power Puff หรือแปรง Powder Brush

เพื่อให้ผิวหน้าดูอบอุ่นขึ้น ลองไล้ Bronzing Powder อย่างบางเบาบริเวณแก้ม,หน้าผาก, จมูก และคาง โดยใช้แปรง Bronzer Brush

ขั้นที่ 4
Blush
ยิ้มที่หน้ากระจกและไล้ Blush (ปัดแก้ม) สีโทนธรรมชาติโดยใช้แปรง Blush Brush เกลี่ยตั้งแต่พวงแก้มเรื่อยไปตามโหนกแก้มจนสุดแนวไรผม แล้วจึงปัดไล่ย้อนลงในทิศทางเดิมเพื่อให้สีดูนุ่มนวลขึ้น

จากนั้นจึงใช้สีโทนสว่างปัดเบาๆซ้ำอีกครั้ง (เฉพาะพวงแก้มเท่านั้น) ทับสีโทนธรรมชาติ เพื่อให้บลัชออนติดทนนานตลอดวัน
ขั้นที่ 5
Lipstick/Gloss
เมื่อคุณต้องการ Lipstick ที่สามารถใช้ได้ทุกวัน ลองเลือกสีที่ใกล้เคียงกับสีริมฝีปากตามธรรมชาติของคุณ สีที่เหมาะสมกับคุณที่สุดคือสีที่เหมือนหรืออาจเข้มกว่าสีริมฝีปากของคุณเล็กน้อย

ขั้นที่6
Lip Liner
เพื่อความสวยอย่างเป็นธรรมชาติและป้องกันการซึมเลอะขอบปาก ให้วาดขอบ
ปากด้วย Lip Liner หลังจากทาลิปสติกเสร็จแล้ว โดยใช้แปรง Lip Brush เกลี่ยสีให้นุ่มนวลและทำให้เส้นขอบปากดูละมุนขึ้น

ขั้นที่ 7
Brow
เพื่อความเป็นธรรมชาติที่สุด ควรใช้ EyeShadow เติมสีที่คิ้วโดยเลือกสีที่ใกล้เคียงกับสีผมของคุณ โดยใช้แปรง Eye Brow Brush หรือถ้าคุณมีคิ้วที่บางมากให้ใช้แปรง Eye Definer Brush โดยเริ่มแตะสีจากหัวคิ้วด้านในและไล่ไปตามแนวเส้นคิ้วธรรมชาติ พยายามควบคุมน้ำหนักมือให้เบาที่สุด

ถ้าหากคิ้วที่เขียนเสร็จแล้วดูเป็นเส้นแข็งเกินไป สามารถทำให้นุ่มนวลขึ้นได้โดยใช้ Loose Powder (แป้งฝุ่น) กดทับไปที่คิ้วเบาๆด้วย Power Puff
ขั้นที่8
Eye Shadow
ไล้ Eye Shadow โทนสีอ่อนตั้งแต่แนวขนตาเรื่อยไปจนถึงบริเวณท้องคิ้ว โดยใช้แปรง Eye Shader Brush

จากนั้นใช้อายแชโดว์สีกลางระบายให้ทั่วตั้งแต่ชั้นพับตาล่างจนถึงกระบอกตา
โดยใช้แปรง Eye Shadow Brush

ขั้นที่ 9
Eye Liner
วาดเส้นที่ขอบตาด้านบน ด้วย Eye Shadow สีเข้ม โดยใช้ร่วมกับแปรง
Eye Liner Brush และเพื่อให้ไดผลลัพธ์ที่ติดทนนานขึ้น ให้นำขนแปรงจุ่มน้ำและเช็ดหมาดๆก่อนแตะสีอายแชโดว์หรือจะใช้ Long-Wear Gel Eye Liner ควบคู่ไปกับแปรง Ultra Fine Eye Liner Brush ก็ได้
ขั้นที่ 10
Mascara
Mascara สีดำสนิทจะสร้างความโดดเด่นที่สุดให้กับดวงตาของคุณ ส่วนสีน้ำตาลจะทำให้ดวงตาของคุณดูอ่อนโยนขึ้นทุกครั้งที่ใช้มาสคาร่า ให้ปัดไล่จากโคนไปจนสุดปลายขนตา พร้อมทั้งหมุนหัวแปรงไปด้วยเพื่อให้ขนตาเรียงเส้นสวยงามและไม่จับเป็นก้อน

ถ้าคุณเลือกที่จะดัดขนตา จงมั่นใจว่าคุณได้ทำมันก่อนที่จะลงมือปัดมาสคาร่า
เพราะหากคุณดัดขนตาหลังจากปัดมาสคาร่าไปแล้ว นั่นอาจทำให้ขนตาของ
คุณหักหรือขาดได้

คอเคล็ดเจ็บๆ

0comments
ถิงแบบทำงานในคอม เรียนในคอม อยู่กับคอมวันหนึ่งเกิน 10 ชม
คอชอบเคล็ด 555555เผื่อมีใครเป็นเหมือนเรา
เราก็แก้ๆมาหลายวิธีและๆๆ เอามาฝาก
นวด
ลองนวดบริเวณกล้ามเนื้อที่รู้สึกปวดเลย ค่อยๆคลายกล้ามเนื้อเบาๆ
ไม่ก็นอนราบให้กล้ามเนื้อคอได้พักก็ดีเหมือนกัน สัก ครึ่งชั่งโมง

น้ำร้อนบรรเทา
ใช้กระเป๋าน้ำร้อน หรือผ้าชุบน้ำอุ่น ประคบบริเวณกล้ามเนื้อคอที่เคล็ด
ทิ้งไว้ประมาณ 20 – 30 นาที แล้วก็นวดเบา ๆ เพื่อให้กล้ามเนื้อคลายตัว

ดันศีรษะให้ตึง
ใช้มือช่วยดันศีรษะไปในทิศทางที่เกิดอาการตึงช้า ๆ จนรู้สึกตึงเล็กน้อย
ดันค้างไว้ประมาณ 10-15 วินาที ทำแบบเดิมสัก 5 - 10 ครั้ง

ทานยารักษาโดยเฉพาะ
ให้รับประทานยาจำพวกคลายกล้ามเนื้อ คลายเส้นประสาท เพื่อช่วยให้อาการดีขึ้น

ถ้าไม่หายไปหาหมอเลย เดี่ยว แก่แล้ว กระดูกไม่ดี ไม่สวย ไม่รู้ด้วย ><
 

© 2010

Blogger Templates by Splashy Templates